เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวหน้าของเราย่อมเปลี่ยนแปลงตามเวลา ทั้งริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และโครงหน้าที่ไม่ชัดเจนเหมือนเดิม การดูแลตัวเองด้วยครีมบำรุงหรือการยกกระชับผิว ด้วยวิธีต่าง ๆ อาจช่วยได้ในระยะสั้น ไม่ถาวร แต่สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและชัดเจน การดึงหน้า (Face lift) คือคำตอบที่สามารถย้อนวัยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียน และกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ซึ่งการดึงหน้าไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังช่วยเสริมความมั่นใจ คืนความสดใสให้กับบุคลิก และสามารถแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างใบหน้าได้ดี โดยเฉพาะเมื่อนำเทคนิคขั้นสูงมาใช้กับการผ่าตัดในชั้นลึกอย่าง SMAS ซึ่งเป็นจุดเด่นของการศัลยกรรมดึงหน้าที่ BEAMS Plastic Surgery ค่ะ
การดึงหน้าคืออะไร?
การดึงหน้า (Face lift) หรือศัลยกรรมดึงหน้าตึง คือเทคนิคทางการแพทย์ที่ออกแบบมาเพื่อ ยกกระชับใบหน้าอย่างล้ำลึก ที่จะแก้ไขปัญหาของใบหน้าที่เกิดขึ้น ทั้งจากอายุที่มากขึ้น และปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย เช่น การมี ริ้วรอย, ความหย่อนคล้อยของผิว, มีร่องแก้ม , ร่องน้ำหมาก และกรอบหน้าไม่ชัด เป็นต้น
โดยการผ่าตัดจะเข้าไปจัดการเลาะที่ชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังอย่าง SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อสำคัญที่มีผลต่อรูปหน้าโดยตรง และทำการยกกระชับผิวหน้าชั้นนอก โดยการตัดหนังส่วนเกินด้านนอกออก ให้ผิวหน้าเรียบเนียน และเต่งตึง ขึ้นเป็นธรรมชาติ
การดึงหน้าที่ BEAMS Plastic Surgery จึงไม่ใช่แค่การดึงผิวภายนอก แต่เป็นการ ปรับโครงสร้างภายใน เพื่อยกกระชับอย่างแท้จริง โดยผลลัพธ์จะออกมา “ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงแข็ง และอยู่ได้นานหลายปี” อีกทั้งยังช่วยปรับมิติของใบหน้าให้ชัดเจน ดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ
ดึงหน้า ชั้น SMAS คือ?
ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น
SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) คือ โครงสร้างชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่พยุงผิวหนังใบหน้าไว้ ทำหน้าที่เสมือน “โครงสร้างหลักของใบหน้า” พออายุมากขึ้น ชั้น Smas ก็จะเริ่มหย่อนคล้อย จึงทำให้ส่งผลต่อใบหน้าอย่างโดยตรง ให้มีความหน้าเหี่ยว ผิวหน้าไม่กระชับ รวมถึงกรอบหน้าไม่ชัด
การดึงหน้าตึงที่ BEAMS Plastic Surgery จึงดึงถึงชั้นลึก อย่างชั้น Smas หากยกกระชับเฉพาะผิวด้านบน จะให้ผลลัพธ์ของการดึงหน้าตึงนั้นจะได้เพียงชั่วคราว และเสี่ยงให้ผิวดูแข็งตึงเกินไปไม่เป็นธรรมชาติ ในขณะที่การดึงหน้าตึง ที่ชั้น SMAS จะช่วยให้ ผิวหน้าถูกยกทั้งโครงสร้าง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มั่นคงและยาวนานยิ่งขึ้นค่ะ
1 เดือน กับการเข้าที่ของแผลดึงหน้า
ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น
Invisible Lock หรือที่เรียกว่า “เทคนิคการซ่อนแผล” คิดค้นและพัฒนาโดยหมอบีม (พญ.คุณาภรณ์ ตั้งธนะวัฒน์) ศัลยแพทย์ตกแต่งใบหน้าเฉพาะทาง ว.48073 ที่เข้าใจคนไข้ ที่อยากศัลยกรรมแล้วกลัวการมีแผลที่เห็นชัดบนใบหน้า
ที่ BEAMS Plastic Surgery จึงใช้เทคนิคที่เป็นเอกสิทธิ์เดียว ที่คิดค้นโดย หมอบีม Facial Expert นั่นคือ Invisible Lock Technique ซึ่งเป็นการเย็บแผลแบบละเอียดซ่อนแนบเนียนบริเวณ ใต้ไรผมไปจนถึงแนวหน้ากรอบใบหู โดยเลือกตำแหน่งตามสัดส่วนและทรงผมของแต่ละบุคคล ทำให้แผลผ่าตัด มีขนาดแผลที่เล็ก แทบไม่ทิ้งรอยแผลเอาไว้ให้เห็นเมื่อแผลหายดี
ซึ่งเทคนิคนี้จะช่วยซ่อนรอยแผล ทำให้กลมกลืนกับผิวจนสังเกตได้ยาก อีกทั้งยังทำให้แผลหายเร็ว รอยผ่าตัดจางลง และยังช่วยลดการระคายเคืองผิวบริเวณรอบแผล ทำให้ผิวเนียนสวย เทคนิคนี้นอกจากจะช่วยให้แผลเรียบเนียน ยังลดการบวมช้ำ พักฟื้นสั้น และช่วยให้การหายของแผลเร็วขึ้น “ส่งผลให้คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจหลังการผ่าตัด”
คลิกเพื่อขอดูริวิวเทคนิค Invisible Lock ที่หมอเลือกใช้
ดึงหน้า สามารถยกกระชับใบหน้า ส่วนไหนได้บ้าง?
ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น
ดึงหน้า ที่ BEAMS Plastic Surgery การผ่าตัดยกกระชับใบหน้า จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
1. Upper Face Lift หรือการดึงหน้าส่วนบน
ผ่าตัดยกกระชับใบหน้าส่วนบน ที่ครอบคลุมบริเวณ หางคิ้ว หางตา และโหนกแก้ม เพื่อแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย และลดเลือนริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัย เช่น ริ้วรอยตีนกา หางตาตก หรือคิ้วที่คล้อยต่ำ ซึ่งอาจทำให้ใบหน้าดูโทรม และอ่อนแรง
ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Upper Face Lift
- ยกหางตาให้ดูสดใสและอ่อนวัยขึ้น
- ยกกระชับแนวคิ้วและโหนกแก้มให้ดูได้รูป ไม่หย่อนคล้อย
- เปิดดวงตาให้ดูสดใส มีชีวิตชีวามากขึ้น
- ปรับสมดุลใบหน้าให้ดูยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
2. Middle Face Lift หรือการดึงหน้าส่วนกลาง
การผ่าตัดยกกระชับบริเวณช่วงกลางของใบหน้า ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ แก้ม ร่องแก้ม ไปจนถึงมุมปาก เพื่อคืนความกระชับให้ใบหน้าส่วนกลางที่หย่อนคล้อยตามอายุ หรือปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดหน้าหย่อนคล้อย เพื่อช่วยยกแนวแก้มขึ้น ลดความชัดของ ร่องแก้ม และ กระเปาะแก้ม ที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าวัย
ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Middle Face Lift
- ยกมุมปากที่ตกให้กลับมาดูสดใส ไม่เศร้าหมอง
- ลดความลึกของ ร่องน้ำหมาก และริ้วรอยบริเวณมุมปาก
- ปรับแนว กรอบหน้า (Jawline) ให้คมชัดขึ้น
- ลดความหย่อนคล้อยบริเวณแก้มล่าง
3. Lower Face Lift หรือการดึงหน้าส่วนล่าง
ผ่าตัดเพื่อยกกระชับบริเวณ แนวกราม มุมปาก ร่องน้ำหมาก และใต้คาง ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยที่เกิดจากวัย เช่น มุมปากตก กรอบหน้าไม่ชัด หรือคางสองชั้นที่ทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส การดึงหน้าส่วนล่างจะช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน เสริมมิติให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Lower Face Lift
- ยกมุมปากที่ตกให้กลับมาดูสดใส ไม่เศร้าหมอง
- ลดความลึกของ ร่องน้ำหมาก และริ้วรอยบริเวณมุมปาก
- ปรับแนว กรอบหน้า (Jawline) ให้คมชัดขึ้น
- ลดความหย่อนคล้อยบริเวณแก้มล่างและใต้คาง
ดึงหน้าอยู่ได้ กี่ปี
การดึงหน้า (Face lift) ถือเป็นหัตถการย้อนวัยที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและยาวนาน ผลลัพธ์ของการดึงหน้า ที่ BEAMS Plastic Surgery ที่ดึงจากชั้นลึก (ชั้น Smas) สามารถอยู่ได้นานประมาณ 5-10 ปี แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างเช่น โครงสร้างผิวของแต่ละคน และการดูแลหลังผ่าตัด รวมถึง พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ ความเครียด หรือการโดนแดดเป็นประจำ
เมื่อดึงหน้าโดยใช้เทคนิคที่ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อสำคัญที่รองรับผิวหน้า จะช่วย ยกกระชับใบหน้า ได้อย่างยาวนานและเป็นธรรมชาติ ลดปัญหา ริ้วรอยลึก , ผิวหย่อนคล้อย และร่องแก้มชัดได้อย่างเห็นผล แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี หากดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมและมาตรวจ ติดตามกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ผลลัพธ์ของการ
“ดึงหน้าสามารถอยู่ได้ยาวนาน คุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อความอ่อนเยาว์อย่างแท้จริง”
คลิปนี้มีคำตอบ! ทำ face lift คุ้มค่าหรือไม่
ดึงหน้า เหมาะกับใคร
-
ผู้ที่มีภาวะหางตาตก
- ผู้ที่มี ริ้วรอยร่องแก้ม ร่องแก้มลึก
- ผู้ที่มีแก้มหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีร่องน้ำหมากชัด
- ผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หน้าอ้วน หน้าไม่เรียว
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขความหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีรูปหน้าที่ต้องการปรับโครงสร้าง
- ผู้ที่เคยทำการฉีดฟิลเลอร์หรือร้อยไหมมาแล้ว แต่ไม่ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ หรือผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน
ดึงหน้า ควรทำอายุเท่าไหร่?
คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าต้องอายุ 40+ ถึงจะดึงหน้าได้ แม้อายุจะเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ไม่ใช่ตัวกำหนดเสมอไป เนื่องจากสภาพผิวและปัญหาเฉพาะจุดของแต่ละคนต่างกัน ดังนั้นการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างแม่นยำ เพื่อแนะนำวิธีการดึงหน้า หรือหัตถการอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
อยากรู้ว่าคุณเหมาะกับการดึงหน้าหรือไม่? ปรึกษากับแพทย์ของเราได้เลย
ข้อดีของการดึงหน้า ที่ BEAMS
- ดึงหน้าย้อนวัย ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 5-10 ปี
เป็นการแก้ปัญหา ที่เห็นผลได้ในระยะยาว
-
ยกกระชับผิวหย่อนคล้อย คืนความตึงกระชับให้ใบหน้า
การดึงหน้าเป็นการแก้ไขผิวหย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุด โดยยกกระชับตั้งแต่ชั้นกล้ามเนื้อ (SMAS) ไม่ใช่แค่ผิวด้านนอก จึงช่วยให้ใบหน้าดูตึงกระชับได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง พร้อมฟื้นคืนความกระชับให้ใบหน้าในทุกมิติ
- ทำให้ผิวเรียบเนียนและดูอ่อนวัย
เมื่อโครงสร้างผิวถูกยกขึ้นอย่างเหมาะสม ริ้วรอยลึก เช่น ริ้วรอยบนใบหน้า ร่องแก้ม หรือตีนกา จะจางลงอย่างเห็นได้ชัด ผิวหน้าจึงดูเรียบเนียนขึ้น ให้ความรู้สึกสดใสและอ่อนเยาว์กว่าเดิม - ใบหน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
ด้วยเทคนิคการดึงหน้าที่ลงลึกถึงชั้น SMAS ทำให้ผลลัพธ์หลังการผ่าตัดดูอ่อนวัยแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหลอกตา หรือแข็งตึงแบบที่หลายคนกังวล จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการย้อนวัยแต่ยังคงเอกลักษณ์ของตัวเอง - ไม่มีแผลเป็นชัดเจน
การดึงหน้าชั้นลึกจะไม่ใช้การดึงที่ผิวหนังเพียงอย่างเดียว จึงไม่ก่อให้เกิดแรงตึงบริเวณผิวชั้นนอก และช่วยหลีกเลี่ยงการเกิดแผลเป็นหรือรอยดึงที่เห็นได้ชัด
-
ซ่อนแผลอย่างแนบเนียน มองแทบไม่เห็น
ที่ BEAMS Plastic Surgery แพทย์จะซ่อนแผลไว้ใต้แนวไรผมและหน้ากรอบใบหู ทำให้แทบมองไม่เห็นแผลหลังทำ และสามารถรวบผม แต่งหน้า หรือใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ
- บวมช้ำน้อย แผลหายเร็ว พักฟื้นไม่นาน
ด้วยเทคนิคที่แม่นยำและอุปกรณ์ที่ทันสมัย การผ่าตัดดึงหน้าในปัจจุบันทำให้เกิดการบาดเจ็บของเนื้อเยือน้อย อาการบวมช้ำหลังผ่าตัดจึงไม่รุนแรง พักฟื้นประมาณ 3-5 วัน ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็ว
ข้อจำกัด หรือข้อควรรู้ ของการดึงหน้า
- มีระยะของการพักฟื้นประมาณ 3-5 วัน
- ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น
- มีความเสี่ยงบวม ช้ำ หรือแผลติดเชื้อหากดูแลไม่เหมาะสม
คำแนะนำ : ควรปฏิบัติตามแนวทางของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นผู้เข้ารับบริการควรเตรียมร่างกายให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงก่อนและหลังผ่าตัด
ทำไมต้องทำศัลยกรรมดึงหน้า (Face lift) ที่ BEAMS
การดึงหน้า (Face lift) เป็นหนึ่งในวิธีที่นิยม และมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อยและลดริ้วรอยอย่างเห็นผลชัดเจน ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าการดูแลด้วยวิธีธรรมชาติหรือหัตถการชั่วคราวทั่วไป
โดยเหตุผลสำคัญที่หลายคนเลือกทำศัลยกรรมดึงหน้า ที่ BEAMS Plastic Surgery มีดังนี้
1. ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน
การดึงหน้าตึงสามารถให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานถึง 5-10 ปี เมื่อเทียบกับการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือร้อยไหม ซึ่งอยู่ได้เพียง 6 เดือน ถึง 2 ปี เท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ถาวรและคุ้มค่าในระยะยาว
2. แก้ปัญหาได้หลายจุดในครั้งเดียว
การดึงหน้าสามารถแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยในหลายจุดพร้อมกัน เช่น
- ยกกระชับแก้มและมุมปาก
- ลดร่องแก้มและร่องน้ำหมาก
- ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน
- ปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น
ซึ่งหากใช้วิธีอื่น อาจต้องทำหลายหัตถการร่วมกัน และมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า เมื่อคำนวณในระยะยาว
3. ช่วยเสริมความมั่นใจ
ผิวหน้าที่หย่อนคล้อยมักทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า แก่กว่าวัย และหมดความมั่นใจ การดึงหน้าจะช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ใบหน้าดูสดใสขึ้น และช่วยเสริมภาพลักษณ์ในชีวิตประจำวันอย่างมีประสิทธิภาพ
4. แก้ไขได้ในชั้นลึก ถึงโครงสร้างชั้น SMAS
ศัลยกรรมดึงหน้าที่ได้ผลจริงต้องลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อ (SMAS) ไม่ใช่แค่ผิวหนังชั้นบน วิธีนี้จึงให้ผลลัพธ์ที่แนบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีประสบการณ์เท่านั้นค่ะ
ปรึกษาหมอ I นัดวันผ่าตัด [คลิกที่นี่]
เทคนิคการดึงหน้า Face lift ที่ BEAMS มีแบบไหนบ้าง?
1. เทคนิคผ่าตัดดึงหน้า (Facelift)
เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยปานกลาง-มาก เป็นเทคนิคดึงหน้าโดยการผ่าตัดลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) ซึ่งเป็นโครงสร้างเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อของใบหน้าที่อยู่ใต้ชั้นไขมัน การยกกระชับในชั้นนี้จะช่วยให้ผิวตึงโดยไม่ดูแข็งหรือผิดธรรมชาติ
- แพทย์จะทำการเลาะและผ่าตัดลึกถึงชั้น SMAS เพื่อยกกระชับใบหน้าขึ้น
- ตัดตกแต่งหนังส่วนเกินด้านนอกออก
- ใช้เทคนิค Invisible Lock เย็บแผลแบบซ่อนรอย
- แนวแผลจะอยู่บริเวณ ใต้แนวไร้ผมตั้งแต่ขมับจนถึงแนวหน้ากรอบใบหู
- แผลจะค่อยๆ จางลงใน 1 เดือน และหายสนิทในประมาณ 3-6 เดือนหลังผ่าตัด
2. เทคนิคส่องกล้องดึงหน้า (Endoscopic Facelift)
เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยไม่มาก ผิวไม่กระชับ มีร่องแก้มไม่มาก และไม่มีผิวหนังด้านนอกส่วนเกินที่ต้องตัดออก และต้องการฟื้นตัวเร็ว
- เปิดแผลเล็กมากเพื่อสอดกล้อง Endoscope เข้าไปทำการเลาะชั้น SMAS
- ยกกระชับใบหน้าส่วนกลางและส่วนล่าง
- ซ่อนแผลไว้ในไรผม
- แก้ปัญหา ร่องแก้มลึก และมุมปากตก
- กรอบหน้าชัดขึ้น ใบหน้าดูสดใสอ่อนเยาว์
ขั้นตอนการผ่าตัดดึงหน้า (Facelift)
- วิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าเฉพาะบุคคลโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง
วางแผนการยกกระชับแบบตัวต่อตัว เพื่อแพทย์อยากให้ผลลัพธ์เหมาะกับใบหน้าของแต่ละคนมากที่สุด - เตรียมก่อนผ่าตัด
ดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ เพื่อความปลอดภัย - เปิดแผลโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง
ตั้งแต่ขมับ บริเวณใต้ไรผมไปจนถึงแนวหน้ากรอบใบหู เพื่อยกผิวหนัง และแยกออกจากชั้น SMAS - ยกกระชับลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ (SMAS)
ดึงกล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้น และเย็บยึดไว้กับจุดที่แข็งแรง พร้อมตัดผิวหนังส่วนเกินออก - เย็บปิดแผลด้วยเทคนิค Invisible Lock
ซ่อนรอยแผลให้แนบเนียนกับใต้แนวไรผมและแนวหน้ากรอบใบหู โดยไม่มีแรงตึงบนผิวด้านนอก ช่วยให้แผลหายเร็ว ไม่เห็นชัด และลดโอกาสการเกิดอาการบวมช้ำ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดดึงหน้า (Face lift)
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดอาหารและน้ำ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด โดยเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนของวันก่อนผ่าตัด เพื่อป้องกันภาวะสำลักในระหว่างดมยาสลบ
- งดแต่งหน้า และไม่ทาครีมบำรุง ในวันผ่าตัด เพื่อป้องกันความเสี่ยงของการติดเชื้อ
- หยุดยาละลายลิ่มเลือด ล่วงหน้า 7 วัน หากต้องหยุดยาโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนเสมอ
- แจ้งโรคประจำตัว ให้แพทย์ทราบล่วงหน้าเสมอ เพื่อการควบคุมให้อยู่ในภาวะคงที่ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 1 เดือน
- หากต้องรับประทานยาประจำ ควรแจ้งแพทย์ หรือเลขาแพทย์ล่วงหน้า เพื่อจัดการให้เหมาะสม
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงของแผลหายช้าและการติดเชื้อ
- งดวิตามินและอาหารเสริม ล่วงหน้า 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะวิตามิน E, น้ำมันปลา, สมุนไพรต่าง ๆ
- หลีกเลี่ยงการขับรถด้วยตนเอง ช่วงระยะพักฟื้นหลังผ่าตัด ควรให้ญาติหรือผู้ดูแลขับรถให้
- งดใส่คอนแทคเลนส์ ในวันผ่าตัด
- เตรียมบัตรประชาชนหรือ Passport มาแสดงตัวที่คลินิกในวันผ่าตัด
- เลือกใส่เสื้อผ้าที่สะดวกในการถอด-ใส่ เช่น เสื้อที่มีกระดุมหน้า หรือเสื้อเชิ้ต
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดดึงหน้า (Facelift)
- ประคบเย็นในช่วง 1-3 วันแรก โดยใช้น้ำแข็ง หรือ cold pack ประคบบริเวณรอบ ๆ แผล เพื่อช่วยลดบวม
- ไม่แนะนำให้ประคบอุ่น เนื่องจากยังมีอาการชา จะทำให้เกิดผิวพองได้ ซึ่ง 7-14วัน อาการบวมจะดีขึ้นแต่ในบางท่านอาจนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละบุคคลนะคะ
- หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ หากเปียก ควรซับเบา ๆ ให้แห้งทันที เพื่อลดความเสี่ยงแผลติดเชื้อ
- ใส่ผ้ารัดหน้า ช่วง 7 วันแรกหลังศัลยกรรมดึงหน้า ให้ใส่ผ้ารัดหน้าตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อหลัง 7 วันไปแล้ว ควรใส่ผ้ารัดหน้าอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน และใส่ต่อเนื่องจนครบ 3 เดือน
- ควรพักฟื้นอย่างน้อย 3-5 วัน โดยงดกิจกรรมต่าง ๆ ที่อาจจะทำให้หน้ามีการกระทบกระเทือน
- งดออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- รับประทานยาแก้ปวดและยาลดบวม ตามที่แพทย์สั่ง
- จัดท่านอนให้ศีรษะอยู่สูงกว่าระดับหัวใจ เพื่อลดอาการบวมให้เร็วขึ้น และหลีกเลี่ยงการนอนราบและไม่ควรนอนคว่ำหน้าประมาณ 1 อาทิตย์ เพราะอาจเกิดการกระทบกระเทือนแผลผ่าตัด
- งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด เพื่อช่วยให้แผลหายเร็ว
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารหมักดอง ไข่ และอาหารทะเล ประมาณ 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด เพื่อลดโอกาสแผลอักเสบ
- งดสัมผัสหรือกระทบแผลโดยตรง เพื่อป้องกันแผลเปิดหรือแผลอักเสบ
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ และพบแพทย์ตามนัด
- หากมีอาการเลือดออกมากผิดปกติ หรือบวมมาก ควรติดต่อแพทย์โดยทันที
สรุปบทความ
การดึงหน้า (Face lift) คือทางเลือกหัตถการที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันและมีประสิทธิภาพสูงในการยกกระชับใบหน้า เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าอย่างเห็นผลและยาวนาน แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ความหย่อนคล้อย และกรอบหน้าไม่ชัดได้อย่างครอบคลุม โดยเฉพาะการดึงในชั้น SMAS ที่ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและดูเป็นธรรมชาติ
หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาผิวที่เสื่อมตามวัย การศัลยกรรมดึงหน้าโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง BEAMS Plastic Surgery จะช่วยคืนความอ่อนเยาว์ มั่นใจ และดูดีได้อีกครั้ง ด้วยเทคนิคเฉพาะ ที่ดึงลึกถึงชั้น SMAS ผลลัพธ์จะดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง และอยู่ได้นาน 5-10 ปี
ราคาเริ่มต้นของการดึงหน้าขึ้นอยู่กับเทคนิคและปัญหาผิวของแต่ละบุคคล
หากต้องการทราบราคาที่เหมาะกับคุณ แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางเพื่อประเมินแบบเฉพาะบุคคล
ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่ BEAMS Plastic Surgery เพื่อวางแผนย้อนวัยอย่างมั่นใจในแบบที่เป็นคุณวันนี้ได้เลยค่ะ คลิกเพื่อปรึกษาแพทย์ของเรา
รีวิวยกกระชับใบหน้า (Facelift)
FAQ
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการดึงหน้า (Face lift)
ผลลัพธ์ของการดึงหน้าโดยเฉพาะแบบดึงลึกถึงชั้น SMAS สามารถอยู่ได้นาน ประมาณ 5-10 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างผิว การดูแลหลังผ่าตัด และพฤติกรรมการใช้ชีวิตค่ะ
ที่ BEAMS Plastic Surgery ใช้เทคนิคเฉพาะ Invisible Lock ซึ่งเป็นการซ่อนแผลแบบแนบเนียนบริเวณใต้แนวไรผมและหน้ากรอบใบหู ทำให้แผลเล็ก มองไม่เห็นแม้อยู่ใกล้ อีกทั้งหายเร็ว โดยไม่มีรอยแผลเป็นชัดเจนให้กังวลค่ะ
แม้คนส่วนใหญ่มักเริ่มดึงหน้าหลังอายุ 40+ ปีขึ้นไป แต่ในความจริงแล้ว อายุไม่ใช่ปัจจัยหลัก การตัดสินใจควรขึ้นอยู่กับ สภาพผิว ความหย่อนคล้อย ริ้วรอย หรือร่องลึก มากกว่า ควรปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางเพื่อประเมินอย่างแม่นยำค่ะ
การดึงหน้าชั้นลึกจะผ่าตัดถึงชั้นกล้ามเนื้อ SMAS ซึ่งเป็น “โครงสร้างหลักของใบหน้า” ทำให้ ยกกระชับได้ลึกและยาวนานกว่า ในขณะที่การร้อยไหมหรือฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการชั่วคราว ผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ได้ในเวลาสั้น และแก้ได้เฉพาะจุดค่ะ
ราคาเริ่มต้นของการดึงหน้า ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้และปัญหาผิวของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปจะเริ่มตั้งแต่หลักหมื่นปลาย ๆ ไปจนถึงหลักแสน หากต้องการทราบราคาที่เหมาะกับคุณ แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางเพื่อประเมินแบบเฉพาะบุคคลค่ะ