คอที่หย่อนคล้อย หรือคางสองชั้น และริ้วรอยบริเวณคอ เป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนดูแก่กว่าวัย และขาดความมั่นใจ แม้ว่าใบหน้าจะดูอ่อนเยาว์แค่ไหน แต่หากคอไม่กระชับก็ส่งผลต่อรูปลักษณ์โดยรวม วันนี้เรามีบทความเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาที่ตอบโจทย์ด้วย “Necklift” หรือ “ศัลยกรรมคอ” ที่จะช่วยให้คุณกลับมามีคอที่เรียบเนียน กระชับ และดูอ่อนเยาว์อีกครั้งค่ะ
ศัลยกรรมคอ (Necklift) คืออะไร?
Necklift หรือศัลยกรรมคอ คือ ขั้นตอนการผ่าตัดเพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์ของบริเวณคอและใบหน้าส่วนล่าง โดยการกำจัดไขมันส่วนเกิน ดึงกระชับกล้ามเนื้อและผิวหนังที่หย่อนคล้อย และลดริ้วรอยที่บริเวณคอ เพื่อให้ได้คอที่เรียบเนียน มีมุมคางที่ชัดเจน และดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
การทำ Necklift มักจะรวมกับการดูดไขมันบริเวณคาง (Liposuction) และการดึงกระชับกล้ามเนื้อ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาของลำคออย่างเป็นธรรมชาติ
คางสองชั้นเกิดจากอะไร?
คางสองชั้นเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและมีสาเหตุหลากหลาย ได้แก่ :
พันธุกรรม :
โครงสร้างใบหน้าและการกระจายของไขมันบางส่วนถูกกำหนดโดยพันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีลักษณะคางถอยหลัง คางสั้น หรือมีคางสองชั้นอยู่แล้ว คุณก็มีโอกาสสูงที่จะประสบปัญหาเดียวกันมากกว่าคนทั่วไป แม้จะมีการควบคุมน้ำหนักหรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ไขมันใต้คางก็ยังสะสมได้ง่าย เพราะเป็นลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งอาจทำให้แนวกรามไม่ชัดและคางดูหนากว่าปกติ
ไขมันส่วนเกินสะสม :
การรับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูง โดยเฉพาะอาหารมัน หวาน หรือแปรรูป ประกอบกับการขาดการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้น้อยกว่าที่รับเข้า ส่งผลให้เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกินตามร่างกาย รวมถึงบริเวณใต้คาง เมื่อไขมันสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้เห็นเป็นคางสองชั้นหรือทำให้แนวกรามดูไม่ชัดเจน ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังทำให้ใบหน้าดูอวบอ้วนและแก่กว่าวัยได้อีกด้วยนะคะ
อายุที่มากขึ้น :
เมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวจะค่อยๆ ลดลง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ความกระชับ และความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณคอไม่สามารถพยุงตัวได้ดีเหมือนเดิมค่ะ อาจเกิดการหย่อนคล้อยและริ้วรอยได้ง่ายขึ้น อีกทั้งไขมันและกล้ามเนื้อคอที่อ่อนแรงลงก็ยิ่งทำให้คอและแนวกรามดูไม่ชัดเจนเหมือนช่วงวัยหนุ่มสาว
พฤติกรรมการใช้ชีวิต :
การก้มหน้าเล่นโทรศัพท์นานๆ มักเรียกว่า “Tech Neck” ทำให้กล้ามเนื้อคอและผิวหนังถูกกดทับและยืดออกซ้ำๆ ส่งผลให้เกิดรอยพับและความหย่อนคล้อยเร็วกว่าปกติ นอกจากนี้ท่านอนที่ไม่เหมาะสม เช่น นอนหมอนสูงเกินไป หรือท่านอนคว่ำ ก็อาจทำให้กล้ามเนื้อคอและผิวหนังถูกกดทับจนสูญเสียความยืดหยุ่นได้นะคะ เมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้ผิวหนังคอหย่อนตัว เกิดริ้วรอยหรือคางสองชั้นได้ง่ายขึ้น
ดังนั้นการปรับพฤติกรรมเล็กๆ เช่น ลดเวลาการก้มหน้า เลือกหมอนที่รองรับศีรษะและคอได้ดี รวมถึงการยืดเหยียดกล้ามเนื้อคอเป็นประจำ จะช่วยชะลอการเกิดความหย่อนคล้อยและดูแลรูปคอให้กระชับได้ยาวนานขึ้นค่ะ
น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น :
เมื่อร่างกายมีการรับประทานอาหารที่ให้พลังงานเกินความต้องการ หรือมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ร่างกายจะเก็บสะสมพลังงานส่วนเกินในรูปของไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งหนึ่งในบริเวณที่ได้รับผลกระทบได้ง่ายคือ บริเวณคางและลำคอ การสะสมไขมันในจุดนี้อาจทำให้เกิด เหนียง หรือที่หลายคนเรียกว่า “คางสองชั้น” ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าดูอวบอิ่ม ไม่กระชับ และทำให้กรอบหน้าดูไม่ชัดเจน
นอกจากนี้ ไขมันที่สะสมเพิ่มขึ้นยังอาจกดทับหรือทำให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อคอหย่อนคล้อยเร็วขึ้น ยิ่งหากมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็ยิ่งทำให้ผิวหนังบริเวณคางขยายและสูญเสียความกระชับได้ค่ะ
โครงสร้างของกระดูกใบหน้า :
ผู้ที่มีคางเล็กหรือคางถอยหลัง มักมีโครงสร้างกระดูกบริเวณแนวกรามและคางที่ไม่ชัดเจน ส่งผลให้ผิวหนังและไขมันใต้คางขาดการพยุงที่เหมาะสม ส่งผลให้เห็นเป็น “คางสองชั้น” ชัดเจนกว่าคนทั่วไป อีกทั้งโครงหน้าลักษณะนี้ยังอาจทำให้ใบหน้าดูไม่สมดุล ดูสั้นหรือขาดมิติ การแก้ไขจึงอาจต้องอาศัยทั้งการปรับสัดส่วนกระดูก เช่น เสริมคาง ควบคู่กับการยกกระชับหรือลดไขมันใต้คาง เพื่อให้รูปหน้าได้สัดส่วนและดูคมชัดขึ้นค่ะ
เส้นที่คอไม่ใช่ความหย่อนคล้อย

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น
หลายคนเข้าใจผิดว่าเส้นที่คอทั้งหมดคือความหย่อนคล้อย แต่ความจริงแล้วมีความแตกต่าง ดังนี้ค่ะ
เส้นริ้วรอยบนคอ (Neck Lines หรือ Neck Wrinkles)
- เป็นริ้วรอยแนวนอนหรือแนวตั้งที่เกิดจากการขาดความชุ่มชื้น การเคลื่อนไหวซ้ำๆ และอายุที่มากขึ้น
- มักเป็นริ้วรอยบนผิวหนัง ไม่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อหรือไขมันใต้ผิว
- สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำหัตถการ Botox, Laser หรือ Filler
ความหย่อนคล้อยที่คอ (Neck Sagging)
- เกิดจากกล้ามเนื้อ Platysma ที่อ่อนแรง มีไขมันส่วนเกิน และผิวหนังที่ขาดความยืดหยุ่น
- ทำให้เกิดคอที่มีผิวเกินห้อย คล้ายคอไก่งวง
- ทำให้มุมคางไม่ชัด และเส้นขอบหน้าไม่คมชัด
- ต้องใช้การศัลยกรรมคอเพื่อแก้ไขปัญหาจริงๆ
การวิเคราะห์ที่ถูกต้องจากศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงสำคัญมาก เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดค่ะ
สาเหตุของการเกิดหย่อนคล้อยจากคอ
ความหย่อนคล้อยของคอเกิดจากปัจจัยหลายอย่างที่ทำงานร่วมกัน :
ความหย่อนคล้อยจากการชรา
- คอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนังลดลงตามอายุ
- ผิวหนังขาดความยืดหยุ่นและความแน่นกระชับ
- เซลล์ผิวหมุนเวียนช้าลง ทำให้ผิวหนังบาง
แรงโน้มถ่วง
- ยิ่งอายุมากขึ้น แรงโน้มถ่วงยิ่งดึงผิวหนังและไขมันลงมา
- คอเป็นบริเวณที่เห็นผลกระทบจากแรงโน้มถ่วงชัดเจน เนื่องจากผิวค่อนข้างบาง
กล้ามเนื้อ Platysma อ่อนแรง
- กล้ามเนื้อนี้ทำหน้าที่ค้ำจุนผิวหนังที่คอ
- เมื่ออ่อนแรงและแยกออกจากกันตรงกลาง จะเกิด Platysmal Bands
- ทำให้คอดูหย่อนและมีแถบกล้ามเนื้อโผล่
การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก
- การเพิ่มน้ำหนักแล้วลดลงซ้ำๆ (Yo-yo Effect) ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย
- ผิวหนังที่คอยืดออกแล้วไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมได้
การสัมผัสแสงแดด
- รังสี UV ทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนัง
- คอเป็นบริเวณที่มักถูกละเลยในการทาครีมกันแดด
- ทำให้ผิวหนังแก่ก่อนวัยและหย่อนคล้อยเร็วขึ้น
การสูบบุหรี่
- ลดการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงผิวหนัง
- เร่งการทำลายคอลลาเจนและอิลาสติน
- ทำให้ผิวหนังแก่เร็วและยืดหย่อนง่าย
ท่าทางและพฤติกรรม
- การก้มหน้าใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานาน
- การนอนหนุนหมอนสูงเกินไป
- ท่านั่งที่ไม่ถูกต้อง
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับผ่าตัด :
หยุดยาและอาหารเสริม
หยุดยา Aspirin, NSAIDs, วิตามิน E, น้ำมันปลา และยาสมุนไพรบางชนิด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
งดสูบบุหรี่
งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
ตรวจสุขภาพตามแพทย์สั่ง
ทำการตรวจเลือดและประเมินสุขภาพทั่วไป พร้อมแจ้งประวัติโรคประจำตัวและการแพ้ยาทั้งหมด
งดอาหารและน้ำก่อนผ่าตัด
งดอาหารและงดน้ำ 8 ชั่วโมงก่อนเข้าผ่าตัด (ตามคำแนะนำของแพทย์)
เตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสม
สวมเสื้อกระดุมหน้าหรือซิปหน้าที่หลวม หรือใส่สบาย ไม่ต้องสวมผ่านศีรษะ ไม่แต่งหน้า ไม่ทาครีม
ถอดเครื่องประดับและอุปกรณ์ต่างๆ
ถอดเครื่องประดับทั้งหมด คอนแทคเลนส์ ลบเล็บมือ เพื่อใช้วัดเป็นชีพจร
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการดึงคอ :
- มีปัญหาคอเฉพาะริ้วรอยบนผิวเท่านั้น (เหมาะกับการทำ Botox หรือ Laser)
- มีคางสองชั้นจากไขมันเพียงเล็กน้อย ผิวยังกระชับ (เหมาะกับการดูดไขมัน)
- มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงสูงต่อการผ่าตัด
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
แต่อย่างไรก็ตามควรเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อวิเคราะห์ปัญหาและหาหัตถการที่เหมาะสมค่ะ
ข้อดีของการศัลยกรรมคอ

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น
การทำ Necklift มีข้อดีหลายข้อที่ช่วยแก้ไขปัญหา ทั้งด้านรูปลักษณ์และความมั่นใจ :
คอกระชับ ดูอ่อนเยาว์
ช่วยกำจัดความหย่อนคล้อยและผิวส่วนเกินบริเวณลำคอ ให้คอดูเรียบเนียน แก้ปัญหา Turkey Neck หรือ “คอไก่งวง” ทำให้ใบหน้าดูเด็กลงได้ถึง 5-10 ปี
มุมคางชัด (Defined Jawline)
สร้างมุมคางที่คมชัดและสวยงาม ทำให้เส้นขอบใบหน้าตั้งแต่บริเวณหูจนถึงคางดูเด่นชัด ส่งผลให้ใบหน้าดูกระชับ เรียว และได้รูปมากขึ้นค่ะ
เพิ่มความมั่นใจ
ไม่ต้องกังวลกับปัญหาคอหย่อนคล้อย มั่นใจกล้าสวมเสื้อผ้าที่เปิดคอ
ปรับปรุงสัดส่วนใบหน้าโดยรวม
คอที่กระชับช่วยเสริมให้ใบหน้าดูสมดุล มีเส้นขอบหน้าที่ชัดเจน ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็ก
คุ้มค่าในระยะยาว
แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงในครั้งแรก แต่ด้วยผลลัพธ์ที่ยาวนาน ถือว่าทั้งคุ้มค่าและประหยัดกว่าการทำหัตถการซ้ำๆ อย่างการฉีดฟิลเลอร์หรือการร้อยไหมในระยะยาวค่ะ
รีวิวศัลยกรรมคอ
เคสคุณเสาร์ เสาวลักษณ์ ณ นคร

คลิกเพื่อดูรีวิวเพิ่มเติมศัลยกรรมคอ
สรุปบทความ
Necklift หรือศัลยกรรมคอ คือ วิธีการที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาคอหย่อนคล้อย คางสองชั้น และแถบกล้ามเนื้อที่คอ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากอายุที่มากขึ้น พันธุกรรม การสะสมของไขมัน และปัจจัยอื่น ๆ
การเข้าใจความแตกต่างระหว่างริ้วรอยบนคอกับความหย่อนคล้อยที่แท้จริงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะวิธีการรักษาแตกต่างกัน Necklift เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหย่อนคล้อยที่กล้ามเนื้อและผิวหนัง ไม่ใช่เพียงริ้วรอยผิวเผิน
หากคุณกำลังประสบปัญหาคอหย่อนคล้อยหรือคางสองชั้นที่ส่งผลต่อความมั่นใจ BEAMS Clinic แนะนำให้ปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมใบหน้าตกแต่งเฉพาะทางโดยตรง เพื่อเป็นก้าวแรกที่สำคัญ แพทย์จะประเมินปัญหาของคุณและแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Necklift หรือรวมกับหัตถการอื่นๆ เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบและตรงตามความต้องการ
ความงามและความมั่นใจเริ่มต้นที่การดูแลตัวเอง และบางครั้งการให้ความช่วยเหลือจากศัลยกรรมเฉพาะทาง ก็เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนะคะ คลิกเพื่อปรึกษาแพทย์ของเรา
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Necklift ศัลยกรรมคอ
เหมาะสำหรับผู้ที่มีคอหย่อนคล้อย มีคางสองชั้นที่ไม่หายไปแม้จะลดน้ำหนัก มีแถบกล้ามเนื้อ Platysmal Bands ชัดเจน หรือมี คอไก่งวง รวมถึงผู้ที่รู้สึกว่าคอดูแก่กว่าวัยและทำให้ใบหน้าไม่สมดุลค่ะ
หัตถการอย่าง Filler, Botox หรือร้อยไหม เหมาะสำหรับแก้ไขปัญหาผิวเผินหรือชั่วคราว แต่ Necklift เน้นแก้ปัญหาที่โครงสร้างลึก เช่น กล้ามเนื้อและผิวที่หย่อนคล้อยจริงๆ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานกว่าค่ะ
ผู้เข้ารับการผ่าตัดต้องหยุดยาและอาหารเสริมบางชนิด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
งดสูบบุหรี่ ตรวจสุขภาพตามแพทย์สั่ง และงดอาหาร-น้ำอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนเข้าห้องผ่าตัดค่ะ
ผลลัพธ์โดยทั่วไปอยู่ได้นานหลายปี ขึ้นกับการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด เช่น ควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และป้องกันแสงแดด ซึ่งจะช่วยให้คอกระชับและอ่อนเยาว์ยาวนานยิ่งขึ้น
ผู้ที่มีเพียงริ้วรอยเล็กน้อยโดยที่ผิวยังกระชับอยู่ ผู้ที่มีปัญหาเพียงไขมันเล็กน้อยที่คาง หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เสี่ยงสูงต่อการผ่าตัด รวมถึงหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ไม่เหมาะกับการทำ Necklift ค่ะ


